คำว่า Ergonomics เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2492 โดยนักการยศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ KFH Murrell
ซึ่งคำว่า Ergonomics เกิดจากการนำเอาคำจากภาษากรีก 2 คำมาสนธิกัน นั่นก็คือคำว่า "ergon" ซึ่งหมายถึง "งาน" หรือ "work" และคำว่า nomos ซึ่งหมายถึง "กฎ" หรือ Law เมื่อรวมแล้วจะเกิดคำใหม่ขึ้นมาคือ Ergonomics หรือ Law of work นั่นเอง
ความเจ็บป่วยของร่างกายที่มาจากการทำงาน เกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง ?
การนั่งติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
การนั่งในท่าที่ผิดติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
การใช้ร่างกายทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการนั่งในท่าที่ผิด
โต๊ะทำงานที่ไม่สมดุลต่อร่างกาย
Ergonomics หรือ การยศาสตร์ คืออะไร ?
Ergonomics หรือ การยศาสตร์ คือหลักการที่มีขึ้นเพื่อศึกษา และพัฒนาสภาพการทำงานที่มีความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงาน และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของการทำงาน โดยมีหลักพิจารณาว่าสถานที่ทำงานดังกล่าว ได้มีการออกแบบ หรือ มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง มีความเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะมีความไม่ปลอดภัย หรือ มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยทั้งร่างกาย และจิตใจในการทำงาน รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้หลัก Ergonomics ยังถูกนำไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์ เช่น เครื่องมืออุปกรณ์ หรือระบบงานต่างๆ เพื่อให้มนุษย์สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลเสียกับสุขภาพร่างกายและจิตใจให้น้อยที่สุด
แม้หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆแล้วหลัก Ergonomics หรือ การยศาสตร์ นั้นวนเวียนอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแทบจะ 24 ชั่วโมง
ดังนั้น Ergonomics หรือ การยศาสตร์ จึงเป็นเรื่องของการประยุกต์ใช้หลักการทางด้านชีววิทยา จิตวิทยา กายวิภาคศาสตร์ และสรีรวิทยา เพื่อขจัดสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุทำให้พนักงานเกิดความไม่สะดวกสบาย ปวดเมื่อย หรือมีสุขภาพอนามัยที่ไม่ดีทั้งร่างกาย และจิตใจ อันเนื่องมาจากการทำงานในสภาพแวดล้อมนั้น ๆ หลักการยศาสตร์จะถูกนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไข หรือ ป้องกันเพื่อไม่ให้มีการออกแบบพื้นที่การทำงาน เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน หรือ เครื่องมืออุปกรณ์การทำงานต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมของพนักงาน
สรีระศาสตร์ กับลักษณะท่านั่งที่เหมาะสมตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic Chair)
หน้าจอ ควรอยู่ห่างจากตัว1 ช่วงแขน และขอบบนของหน้าจอควรอยู่ระดับเดียวกับระดับสายตา
ศรีษะ ตั้งตรง หรือ ก้มเล็กน้อย ทำมุม 10-15 องศา สายตาขนานกับพื้น
คอ อยู่ในระดับสายตา ไม่เอียง หรือ โน้มไปด้านใดด้านหนึ่ง
หลัง ชิดติดพนักพิง เอนไปทางด้านหลังเล็กน้อย 120 องศา ตัวตรง ไม่แอ่นหรือก้ม
ก้น ต้องแนบกับบริเวณมุมฉากของพนัก ลงน้ำหนักที่กล้ามเนื้อก้นซ้าย และขวาให้เท่ากัน
ข้อศอก วางแนบชิดลำตัว หรือ วางบนที่พักแขนทำมุม 90 องศา ข้อมือ และศอกอยู่ในแนวเส้นตรง
ต้นขา วางราบกับที่นั่ง และแนบชิดกับเบาะรองนั่ง
เข่า ข้อพับแนบชิดเบาะรองนั่ง ทำมุม 90 องศา
เท้า วางราบกับพื้นแบบเต็มฝ่าเท้า
ข้อกำหนด และลักษณะเก้าอี้ทำงานตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomic Chair)
พนักพิงด้านหลังมีส่วนเว้าเพื่อรองรับเอวช่วงล่าง/หลังให้แนบกับเก้าอี้ และสามารถปรับการล็อคเอนได้ (Backrest tilt angle adjustment)
ปรับระดับความสูงของที่รองคอได้ (Headrest height adjustment)
ปรับระดับขององศาที่รองคอได้ (Headrest angle adjustment)
ที่รองคอเป็นตาข่ายโปร่ง ไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดง่าย
ปรับความหยืดหนุ่นของพนักพิงได้ (Backrest flexible tilt tension adjustment)
ที่วางแขนสามารถปรับเข้า-ออกได้ (Arm-pad inward&outward adjustment) และสามารถปรับระดับความสูงได้ (Armrest height adjustment)
ปรับรองนั่งสามารถปรับเบาะเข้า-ออกได้ (Seat depth adjustment)
สามารถปรับเบาะรองนั่งเข้า-ออกได้ (Seat height adjustment)
นอกจากการจัดโต๊ะทำงานและเก้าอี้ให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) การดูแลตัวเองก็สำคัญเช่นกัน
การนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อซึ่งส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บตามมา ควรแบ่งเวลาพักในการทำงานทุกๆชั่วโมงเป็นเวลาประมาณ 10 นาที
หมั่นลุกเดิน อย่าอยู่กับที่นานจนเกินไป
ยืดเส้นยืดสาย เช่น การบริหารคอ หมุนหัวไหล่ หรือบิดตัวก็ช่วยได้
พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง เพราะเมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ ก็จะทำให้ดวงตาล้าได้ ลองหลับตาดูสัก 5 นาที หรือกรอกตาเป็นวงกลม
เลือกโต๊ะแบบที่สามารถปรับให้ยืนได้ เพื่อเปลี่ยนอริยาบทระหว่างทำงาน
อ้างอิง
ติดต่อลงโฆษณา หรือ ติดต่องานได้ที่
Line OA : @innovatorx
Commenti