top of page
Writer's pictureInnovatorX

เทรนด์ธุรกิจรุ่งปี 2568 พร้อมหรือยังกับโอกาสและความท้าทายของ อุตสาหกรรม Low Carbon



ในปี 2568 การทำธุรกิจต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากหลายปัจจัย ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ความท้าทายเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำหรือ Low Carbon ซึ่งกำลังกลายเป็นดาวเด่นของยุคนี้ และ Net Zero X ในครั้งนี้จะมากล่าวถึงโอกาสของธุรกิจที่รุ่งในปีหน้าครับ

 

เพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดเทรนด์ธุรกิจ 3 เทรนด์นี้

  • Smart Spending, Self-healing, Sustainability

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ เช่น ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาใช้จ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็นและคุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงสภาวะความกดดันให้คนไทยเกิดภาวะเครียดสะสม นำมาซึ่งความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลมากขึ้นจึงเกิดเทรนด์ธุรกิจที่ช่วยเยียวยาจิตใจหรือกลุ่มธุรกิจเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ

 

นอกจากนี้ การตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนขึ้นจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้เทรนด์การบริโภคเอนเอียงไปที่สินค้าที่ช่วยลดผลกระทบต่อโลก เช่น สินค้าคาร์บอนต่ำหรือผลิตภัณฑ์รักษ์โลก เทรนด์ด้าน Sustainability กับกระแสรักษ์โลกนั้น ตอบโจทย์ทั้งตลาดไทยและต่างประเทศ ด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สะท้อนได้จากการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 90% ได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ค่าไฟเพิ่มขึ้นจากอากาศที่ร้อนจัด, ราคาสินค้าสูงขึ้นจากผลผลิตผันผวน, ปัญหาสุขภาพจาก PM2.5

 

หากธุรกิจไหนที่เกี่ยวกับด้าน Green / Low Carbon หรือมีการปล่อยคาร์บอนต่ำจากเดิมที่เคยปล่อยออกมา มีผลสำรวจจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า 58% ผู้บริโภค เต็มใจจ่ายสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยในจำนวนดังกล่าว 37% เต็มใจที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% เมื่อเทียบกับราคาสินค้าปกติ สะท้อนให้เห็นว่ามุมของผู้บริโภคแล้วนั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะปรับตัวสู่การช่วยดูแลโลกและเลือกสิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อมองถึงความยั่งยืนในระยะยาว นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของธุรกิจด้าน Sustainability ที่พัฒนาให้ธุรกิจของตนนั้นปล่อยคาร์บอนต่ำได้จริง

 

โอกาสใหม่ในอุตสาหกรรม Low Carbon

ความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงทำให้ธุรกิจที่ปรับตัวสู่ความยั่งยืนมีศักยภาพเติบโตสูง ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ตลาดไทย แต่ยังเปิดโอกาสในตลาดต่างประเทศด้วย นโยบายสนับสนุนของรัฐและกฎระเบียบสิ่งแวดล้อม เช่น CBAM ของยุโรป ยิ่งผลักดันให้การลดการปล่อยคาร์บอนกลายเป็นความจำเป็นในห่วงโซ่อุปทาน จึงเกิดความท้าทายของธุรกิจให้ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รักษ์โลก เช่น การใช้พลังงานสะอาดหรือวัสดุที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การผลิตสินค้าและวัสดุที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ, การก่อสร้างหรือตกแต่งที่ปล่อยมลพิษและคาร์บอนให้ต่ำลงจากเดิม เป็นต้น

 

ทั้งหมดล้วนเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ไม่ใช่แค่สร้างยอดขาย แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน ดังนั้นแล้ว Net Zero X มองว่าปี 2568 ไม่ใช่แค่ปีแห่งการปรับตัว แต่เป็นโอกาสทองสำหรับธุรกิจที่กล้าคิดและทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้โลกดีขึ้น ใครที่พร้อมปรับตัว ไม่เพียงแต่จะอยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตและสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อทั้งธุรกิจและโลกได้อย่างยั่งยืน 

 

อย่าลืมว่า การสร้างความยั่งยืนในวันนี้ คือการสร้างโอกาสที่มั่นคงสำหรับวันพรุ่งนี้

 

แหล่งข้อมูล : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

bottom of page