เพื่อเตรียมตัวรับเมืองกับการขยายเมือง โดยที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นแผนการออกแบบโปรเจกต์แห่งใหม่ที่ บริษัทสถาปัตยกรรม URB จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ได้วางแผนสร้าง “Urban Tech District” ที่เมือง Al Jaddaf (อัล จัดดาฟ) ในรัฐดูไบ กับย่านที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและการสร้างความยั่งยืนเป็นหลัก
โดยโปรเจกต์นี้มีเป้าหมายการออกแบบให้เป็นศูนย์นี้มีความเป็น Net Zero และความเป็น Green ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างผลกระทบต่อธรรมชาติ สู่การเป็นคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ที่จะกลายเป็นบ้านของผู้ประกอบการชั้นนำ และทำให้ดูไบเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมในเมืองและเสริมศักยภาพระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์เพื่อเผยแพร่ในเอมิเรต รวมถึงทั่วโลก
ก้าวสู่การสร้าง Net Zero Carbon Innovation Hub
โปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่ของ URB ที่จะเนรดิตให้เกิด Urban Tech District ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้พื้นที่ 140,000 ตารางเมตร ออกแบบให้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการสร้าง Innovation Hub ไม่ว่าจะเป็นหอประชุม conference, ห้องฝึกปฏิบัติการด้านแล็บและการวิจัย, ห้องจัดสัมมนา, ห้องเจรจาธุรกิจและ facility อื่นๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการและนักวิจัยในธุรกิจของ innovation มีพื้นที่ทำงานได้ครบวงจรและเต็มประสิทธิภาพ
อาคารทุกอย่างในนี้ต้องเป็นอาคารแบบ Net Zero carbon ที่ปล่อยค่าคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ แล้วชดเชยที่มีการปล่อยคาร์บอนระหว่างดำเนินก่อสร้างโปรเจกต์นี้ จะต้องลดค่า carbon footprint ให้น้อยลง บวกกับเพิ่มกระบวนการสร้างความยั่งยืนของการใช้พลังงานต่างๆ ด้วยการสร้างฟาร์มโซลาร์เซลล์ในเมืองที่มีการออกแบบระบบตรวจจับอุณหภูมิและแสงแดดสำหรับนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าที่จะใช้ในเมือง
ความท้าทายของโปรเจกต์นี้คือการใช้ระบบ solution energy ในสเกลขนาดใหญ่ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อให้ Hub นี้มีพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้การสร้าง Urban Tech District ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับการออกแบบเพื่อความยั่งยืนที่จะใช้ในนี้ และในอนาคตจะกลายเป็นที่ตั้งสถาบันด้านเทคโนโลยีแห่งใหม่ที่ผู้คนรุ่นต่อไปจะได้พบปะและแวะเวียนมาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างโอกาสต่อยอดขึ้นไปสู่การพัฒนาการนำร่องนวัตกรรมจากย่านเมืองนวัตกรรมแห่งนี้
สร้างความร่วมมือแบบ Collaborative Ecosystem ให้เกิดย่านเทคโนโลยี
Baharash Bagherian ผู้ก่อตั้ง URB และอดีตสถาปนิกนักวางแผนผังเมืองเผยว่าที่ Urban Tech District จะเป็นย่านเทคโนโลยีในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ไว้ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้คนในรุ่นต่อๆ รวมถึงการผลิตนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดเป็นเทคโนโลยีที่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงกับสภาพภูมิอากาศของโลกและเทคโนโลยีในอนาคตที่ช่วยแก้ปัญหาด้าน Net Zero โดยไม่สร้างผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมากไปกว่าเดิม
นอกจากนี้จะมีการจัดตั้งกองทุนให้กับนวัตกรและบริษัท start up ที่ต้องการประดิษฐ์เทคโนโลยีสำคัญไว้ช่วยแก้ปัญหาระดับ global อย่างเช่น ปัญหา climate change รวมถึงเพิ่มอัตราการจ้างงานด้านเทคโนโลยีกว่า 4,000 ตำแหน่งอีกด้วย
Project : Urban Tech District
Location : ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
Architect : URB
อ้างอิง
ถ้าหากท่านใดสนใจวัสดุกระจก สอบถามเพิ่มได้ที่
line OA : @innovatorx
Comments