งานสถาปนิกปี 2024 นี้ จะพาแวะชมโซนจัดแสงนวัตกรรมวัสดุครับ กับจุด ASA Platform Selected Materials 2024 ที่รวมรวบวัสดุซึ่งสะท้อนแนวคิดการพัฒนาของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองกับวิถีชีวิตในโลกที่เผชิญกับปัญหาโลกร้อนมากขึ้นทุกปี และในปีนี้ผลิตภัณฑ์บล็อกผนังตกแต่ง จาก Smartblock ได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้ารับรางวัลในหมวด Recycled Materials โดยจะเข้ารับมอบถ้วยรางวัลและเกียรติบัตรในงาน ณ วันศุกร์ที่ 3 พ.ค.67 เวลา 14.00-15.00 น.
จากอิฐก่อสร้างในอดีตที่ปัจจุบันมีประเภทต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ว่าปัจจัยในการเลือกวัสดุยังคงไม่พ้นเรื่องงบประมาณ, ความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักของวัสดุที่ส่งผลถึงตัวอาคาร เหล่านี้จึงเป็นคุณสมบัติที่ทำให้อิฐมวลเบานั้นเป็นวัสดุที่นิยมนำมาใช้กับงานก่อสร้างมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกเหนือจากการผลิตและนำมาใช้แล้ว จำนวนของเศษวัสดุที่มาจากกระบวนการผลิตนั้นก็มีจำนวนมากตามไปด้วย เป็นต้นเหตุที่บริษัท สมาร์ทคอนกรีตจำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอิฐมวลเบามากว่า 20 ปี ได้มองเห็น ถึงปัญหาและนำวัสดุเหลือใช้มาแปรรูป ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
"กระบวนการผลิตอิฐมวลเบาจะมีเศษของเสียที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการผลิต รวมทั้งอิฐมวลเบาที่เกิดการแตกหักเสียหายไม่สามารถนำไปใช้งานต่อได้ โดยปกติของเสียที่เกิดขึ้นเหล่านั้นต้องนำไปทิ้ง ทำให้เกิดปัญหาขยะที่เพิ่มมากขึ้น การนำเอาเศษของเสียเหล่านั้นกลับมา reuse เป็นส่วนผสมในการผลิตบล็อกผนังตกแต่ง เพื่อช่วยลดการใช้วัตถุดิบบางส่วน เช่น ปูนหรือทรายลง นอกจากเป็นการช่วยลดปัญหาเรื่องขยะแล้ว ยังเป็นการนำเอาทรัพยากรเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยังสามารถช่วยเพิ่มคุณสมบัติของบล็อก ผนังตกแต่งให้มีน้ำหนักเบาขึ้น ประหยัดพลังงาน และกระบวนการผลิตยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" รังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บอกเล่าถึงแนวความคิดในการพัฒนา Smartblock บล็อกผนังตกแต่งที่พัฒนาด้วยวัสดุจากการผลิตอิฐมวลเบา
สำหรับบล็อกผนังตกแต่งหรืออิฐช่องลมที่ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่นั้น จะเป็นวัสดุที่ผลิตมาจากคอนกรีตที่มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรง คงทน แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลถึงการรับน้ำหนักของโครงสร้าง การตกแต่ง รวมไปถึงขนาดต่อก้อนที่ไม่ใหญ่นักเมื่อเทียบกับน้ำหนัก ส่งผลต่อปริมาณวัสดุที่ต้องใช้และค่าแรงช่างโดยตรง ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในงานก่อสร้างต่างๆ บล็อกผนังตกแต่งจึงเป็นตัวเลือกที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้อีกทางหนึ่ง
ด้วยน้ำหนักที่เบาจึงสามารถผลิตขนาดต่อก้อนได้ใหญ่ขึ้น (9x30x30 ซม.) ทำให้กระบวนการก่อสร้างมีความสะดวกมากขึ้น ทั้งในแง่ของเวลา ค่าแรง ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอีกทั้งคุณสมบัติของอิฐมวลเบานั้นไม่ดูดซึมสี จึงช่วยให้ลดปริมาณสีที่ใช้ในการตกแต่งลงไปด้วย โดย Smartblock มีรูปแบบที่หลากหลายให้เลือกสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ช่วยสร้างทางเลือกใหม่ๆ ในงานออกแบบให้กับผู้ใช้งานได้
กระบวนการผลิตอิฐมวลเบานั้น ถูกพัฒนาและผลิตภายใต้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ระบบบริหารงานคุณภาพ (Quality Management System: QMS) และมาตรฐาน ISO 14001:2015 การจัดการสิ่งแวดล้อม (Environment management System) รวมไปถึงได้รับมอบฉลากประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพสูง หรือฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สำหรับผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา ที่ถูกต่อยอดมาเป็นบล็อกผนังตกแต่ง และได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยม ปี 2560
"ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีการออกแบบที่มีลักษณะเฉพาะในแต่ละโครงการเพิ่มมากขึ้น สถาปนิกรุ่นใหม่ได้ตระหนักและหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการเลือกใช้วัสดุที่มีลักษณะเฉพาะ ก่อสร้างได้ง่าย รวดเร็ว น้ำหนักเบา มีรูปแบบดีไซน์ที่หลากหลาย ช่วยลดต้นทุนในการก่อสร้างรวมถึงปัญหาแรงงาน ช่างฝีมือ ช่างก่อสร้าง ที่หาได้ยากขึ้น บล็อกผนังตกแต่งของ Smartblock สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกมิติ" รังสี ทีปกรสุขเกษม สรุปถึงมุมมองที่มีต่ออุตสาหกรรมการก่อสร้างที่ส่งผลถึงการทำงานในยุคปัจจุบัน
ไม่ใช่เพียงแต่กระบวนการผลิตบล็อกผนังตกแต่งเท่านั้นที่ช่วยในการลดวัสดุเหลือใช้จากการผลิต เมื่อมองย้อนไปถึงภาพรวมขององค์กรเรื่องการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการก่อสร้างนั้น บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ในปีนี้ เนื่องมาจากการทำงานภายใต้ การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิต การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบ ต่อสังคม รวมถึงสิ่งแวดล้อมภายในและภายนอกองค์กร
ใครที่สนใจอยากชมผลิตภัณฑ์จริงของ Smartblock สามารถมาชมได้ที่งาน ASA กับโซนกลางบริเวณบูธ ASA ของสมาคมสถาปนิกสยาม
พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกับ art4d ในการนำผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา สมาร์ทบล็อค G4 ไปจัดตกแต่งบูธ ขอเชิญเยี่ยมชมได้ที่บูธ art4d เลขที่ F408 : Grid Line O24 อาคารชาเลนเจอร์ 2 สีฟ้า
Comments